วันพุธที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2558
เทคนิคการผลิตมะนาวนอกฤดู
สำหรับการปลูกมะนาวในวงบ่อซีเมนต์นั้นวัตถุประสงค์ เพื่อควบคุมให้ต้นมะนาวออกผลแก่และเก็บเกี่ยวได้ในช่วงฤดูแล้ง หรือนอกฤดู คือช่วงเดือน มีนาคม ถึงเดือน เมษายน ซึ่งมะนาวจะมีราคาแพงมาก สำหรับการปฏิบัติในช่วงเดือนต่างๆ เพื่อผลิตมะนาวนอกฤดูมี ดังนี้
1. เดือนพฤษภาคม ถึงเดือน กรกฏาคม ช่วงนี้เรียกว่าช่วงบำรุงต้น เป็นการสะสมอาหารของมะนาว ให้ทำการตัดแต่งกิ่งรวมถึงให้ปลิดดอกและลูกมะนาวออกจากต้นให้หมด และจำไว้เสมอว่ามะนาวจะไม่มีการออกลูกหรือดอกโดยเด็ดาด ให้ใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักรวมถึงใส่ปุ๋ยเคมี สูตรตัวหน้าที่มีธาตุอาหารสูง เช่น ปุ๋ยสูตร 25-7-7 สลับกับปุ๋ยสูตร 46-0-0 ห่างกันประมาณ 15-20 วัน ที่สำคัญช่วงนี้มะนาวจะแตกยอดอ่อนออกมามากให้บำรุงรักษายอดอ่อนของมะนาวให้ดี โดยการพ่นยากำจัดหนอนชอนใบ
2. เดือน สิงหาคม ถึงเดือน ตุลาคม ช่วงนี้เรียกว่าช่วงสะสมอาหารเพื่อผลิตผล ให้งดการใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 กับ 46-0-0 และปุ๋ยคอก ให้ใส่ปุ๋ยเคมีที่มีธาตุอาหารตัวกลาง และตัวท้ายสูง เช่น สูตร 8-24-24 หรือ 12-24-12 ส่วนทางใบให้ฉีดพ่นด้วยสารเปิดตาดอก ฮอร์โมน ปุ๋ยทางใบ เช่นสูตร 0-52-34 พร้อมกับการงดให้น้ำแก่ต้นมะนาวประมาณ 7-15 วัน จนกระทั่งใบเหลืองและร่วง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพของดินที่ปลูก ประมาณ 15 วันมะนาวก็จะเริ่มออกดอก
3. ช่วงเดือนตุลาคม มะนาวเริ่มออกดอก ให้นับไปอีกประมาณ 4 เดือนครึ่ง ถึง 5 เดือน มะนาวก็จะแก่พร้อมเก็บเกี่ยวในเดือน มีนาคม – เมษายน ซึ่งตรงกับช่วงมะนาวมีราคาแพงพอดี
เทคนิคดังกล่าวนี้เป็นเทคนิคที่ทราบกันโดยทั่วไป เกษตรกรมืออาชีพต้องหมั่นสังเกตและจดจำเพื่อนำไปปรุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สวนของตนเอง อันจะทำให้ประสบผลสำเร็จในการผลิตมะนาวนอกฤดู
สวนมะนาวดูแลง่าย ๆ จ้ะ
1.การเลือกกิ่งพันธุ์ เลือกพันธุ์ที่ คนในท้องถิ่นจะดีสุด เช่นแถวบ้านผมเขากินมะนาวแป้น ผมเลยปลูก แป้นดกพิเศษ แป้นรำไพ แป้นพิจิตร 1 เพราะจะได้ขายง่ายๆและเลือกกิ่งพันธุ์จากสวนที่เชื่อถือได้ ไม่เป็นโรค
2.การผสมดินในการปลูก ผมใช้สูตร 3:1:1 หน้าดิน:ขี้วัวเก่า:แกลบดิบ ผสมให้เข้ากัน ใส่ให้เต็มวงบ่อ จนพูน
3.กิ่งพันธุ์ที่นำมาปลูกควรชำประมาณ 20-30 วัน อย่าเกิน 30 วันนะครับ เพราะรากจะขดโตช้า
4.การปลูก อย่าปลูกลึกเกินไป อย่าให้ดินท่วมโคน และ ควรเสียบไม้ค้ำกันลม ครับ
5. การให้น้ำหลังปลูก ควรให้ระบบมินิสปริงเกอร์ วันละ 5-10 นาที ทุกวัน เช้า หรือ เย็น
6.การให้ปุ๋ยทางดิน ที่สวนผมใช้สูตรเสมอ 16 สูตรเดียว ในการปลูกผมไม่ได้รองพื้นด้วยปุ๋ย หลังจากปลูก 1 เดือนผมจะให้ ปุ๋ย ครั้งแรก มะนาวอายุ 1-2 เดือนให้ปุ๋ย ครึ่งช้อนแกง อายุ 3-5 เดือน 1 ช้อนแกง 6-12 เดือน ครั้งละ 3-4 ช้อนแกง ให้ปุ๋ย 20 วันครั้ง วิธีให้ปุ๋ย รดน้ำให้ชุ่ม โรยปุ๋ยห่างจากโคนต้นเป็นวงกลม รดน้ำให้ปุ๋ยละลาย ควรให้ปุ๋ยตอนเย็น อากาศจะได้ไม่ร้อนมาก ควรให้ปุ๋ยหมักสลับบ้าง 3 เดือน/ครั้ง
7. การให้ปุ๋ยทางใบ ผม ให้ปุ๋ยทางใบด้วยน้ำหมักผลไม้สุก (หมักเอง)ฉีดพ่น แบบละออง สัปดาห์ละครั้ง อัตราส่วน 40-50 cc ต่อน้ำ 20 ลิตร
8.การดูแลรักษา มะนาวต้องรักษายอดอ่อนให้ได้ มะนาวจะโตเร็ว ปราศจากโรค เพราะ หนอน หรือ แมลง จะกินแต่ยอดอ่อน
9.การรักษายอดอ่อนป้องกันหนอนชอนใบ เคมีฉีดพ่นด้วยอะบาแมคติน อินทรีย์ น้ำส้มควันไม้ 5-7 วัน ต่อ ครั้ง ในการฉีดสามารถผสมกับน้ำหมักผลไม้สุดฉีดพ่นพร้อมกันได้ เวลาพ่น เช้า หรือ เย็น (ใส่ชุดป้องกันด้วยนะครับ) นอกจากหนอน แมลงช้างค้อมก็ร้ายกาจ ฉีดพ่นด้วยคาโบซัลแฟน ถ้ามีเยอะๆ นะครับ
10.โรคแคงเกอร์ ที่สวนยังไม่เจอร์ ถ้าเจอกิ่งไหน ตัดทิ้งไปเผา ฉีดป้องกันด้วยสารพวกคอปเปอร์ ถ้าเป็นทั้งต้น ให้ตัดต้นทิ้ง และ เผาไฟ
11. การตัดแต่งกิ่ง ควรตัดแต่งกิ่ง 6 เดือนครั้ง ตัดให้โล่งแดดส่องถึงโคนต้นป้องกันการเกิดโรคได้ ครับ และมะนาว ยิ่งตัดยอดยิ่งแตก
12.อื่นๆ สอบถามเพิ่มได้นะครับ ตาเริ่มจะลาย ครับ 5555
ขอบคุณ :ไร่โชคเจริญรัตนะ เกษตรพอเพียง ผู้ให้ข้อมูล
วิธีการขยายพันธุ์พืช ด้วยการปักชำแบบควบแน่น
วิธีการขยายพันธุ์พืช ด้วยการปักชำแบบควบแน่น โดยแนวคิดของนายเฉลิม พีรี
จาก ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
บ้านวัดใหม่ ๗๕ หมู่ ๓ ต.บึงสามัคคี อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร 089 – 5670591
วิธีการปักชำแบบควบแน่น
วิธีนี้ใช้ได้กับพืชผักและผลไม้ ๓๐ กว่าตัวอย่าง สามารถขยายได้ทีละมากๆ เมื่อเกิดน้ำท่วม
หรือลมพัดต้นแม่พันธุ์เสียหาย สามารถใช้วิธีนี้อนุรักษ์พันธุ์พืชได้ การขยายพันธุ์พืชผักพื้นบ้านแบบควบแน่นอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวิธีการที่สามารถลดเวลา ต้นทุนและการดูแลรักษา สามารถกำหนดปริมาณของผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดและการบริโภคได้อย่างแม่นยำ
การขยายพันธุ์มะนาว แบบควบแน่น
องค์ประกอบในการควบแน่นมะนาว มีดังนี้
- ยอดมะนาว ความแก่อ่อน ๔๐ – ๖๐%
- น้ำสะอาด
- แก้วพลาสติค ขนาดบรรจุ ๑๐ ออนซ์ (หรือภาชนะที่ขนาดใหญ่กว่า ดูตามขนาดของยอดหรือกิ่งมะนาว)
- ถุงพลาสติคใสขนาด ๖ x ๑๑ นิ้ว (หรือขนาดใหญ่กว่า )
- ยางวงเส้นเล็ก หรือเชือก
วิธีทำการปักชำแบบควบแน่น
วิธีทำ
- เก็บดินจากบริเวณที่มีอินทรีวัตถุน้อย ทำดินให้ร่วนซุย
- พรมน้ำคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วปั้นดู พอติดมือ (กำพอเป็นก้อน)
- นำดินใส่ให้เต็มแก้วพลาสติคหรือภาชนะกระถางที่จะใช้ โดยแบ่งใส่ ๓ ครั้ง แต่ละครั้งกดดินให้แน่น ระดับ ๘๐%
- ใช้ไม้แหลมหรือกรรไกรเสียบตรงกลางภาชนะที่ใส่ดินให้ลึกไม่เกิน ๓ ใน ๔ ส่วนของแก้ว
- ใช้กรรไกรคม ตัดยอดมะนาวตามที่ต้องการ ตัดให้ยาวประมาณ ๑๒ – ๑๘ ซม. ข้อสำคัญ อย่าให้แผลที่ตัดเปลือฉีก จะออกรากไม่ดี
- ใช้กรรไกรตัดหนามออกให้หมด ป้องกันหนามแทงถุง ถ้าอากาศเข้าจะออกรากยาก
- นำยอดมะนาวเสียบลงในรูที่เสียบไว้ ให้สุด
- กดดินรอบกิ่งมะนาวให้แน่น อย่าให้หลวม จะออกรากยาก
- นำถุงพลาสติคครอบลงแล้วรัดด้วยยางวงจำนวน ๒ เส้น แล้วดึงก้นถุงให้ยางไปรัดอยู่ที่ขอบปากแก้ว
- นำไปเก็บไว้ในที่ร่มรำไร หลังจากนั้น ๑๕ – ๒๐ วัน ให้ตรวจดูราก พอพบรากให้ปล่อยจนรากมีสีน้ำตาลค่อยกลับถุง
การกลับถุง มีวิธีดังต่อไปนี้
๑.ให้นำถุงออกจากแก้ว ช่วงประมาณ ๑๘.๐๐ น. เพื่อป้องกันความร้อน
๒.นำถุงออกแล้ว นำแก้วมะนาวที่ออกรากแล้ว ใส่กลับลงไปในถุง (เปิดปากถุงไว้ ไม่ต้องใช้ยางวงรัด)
๓.ทิ้งไว้ในร่มรำไร ประมาณ ๕ – ๗ วัน ค่อยนำแก้วมะนาวออกจากถุง เพื่อให้มะนาวปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
๔.หลังจากนั้นนำแก้วมะนาวที่ออกจากถุง พักตัวไว้ในร่ม ๗ – ๑๐ วัน ค่อยนำไปเพาะในกระถาง หรือนำไปปลูกได้เลย
โดย ลุงเฉลิม บอกว่า ลงทุนแค่แก้วพลาสติกใสเพื่อจะได้มองเห็นรากที่งอก, ยางเส้นวงเล็ก, ถุงพลาสติกขนาด 6×10 หรือ 6×11 นิ้วและดินทั่วๆ ไป แต่ถ้าเป็นดินขุยไผ่ยิ่งดี (ห้ามใส่ปุ๋ยเพราะทำให้ดินร้อน) เอาดินมาพรมน้ำทดลองกำ ถ้าดินจับตัวเป็นก้อนมีความร่วนซุยใส่ลงในแก้วพลาสติกกดให้แน่นจนดินเต็มเสมอปากแก้ว…จากนั้นเอายอดกิ่งไม้ที่เลือกไว้ ความอ่อนแก่ 40-60 เปอร์เซ็นต์ตัดกิ่งให้แผลเป็นรูปปากฉลาม ใช้กรรไกรเจาะดินลงไป 3 ใน 4 ส่วนของดิน นำกิ่งชำมาเสียบและกดลงไปให้แน่นแล้วเอาถุงพลาสติกสวมครอบกับแก้วพลาสติก แล้วใช้หนังยางวง 2 เส้น รัดปิดปากถุงกับแก้ว ป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้านำไปวางในที่ร่มอากาศถ่ายเท ทิ้งไว้ 15 วัน แล้วรากจะงอกมาให้เห็นเมื่อรากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จัดการเปิดถุงตัดก้นถ้วยให้เกิดช่องอากาศ นำไปจุ่มน้ำเล็กน้อยดึงแก้วออก แล้วเอากิ่งปักชำใส่ถุงใบเดิม นำไปวางพัก 5-7 วันจากนั้นถึงนำไปปลูกลงดิน โดยให้กิ่งชำเอนเฉียงไปทางทิศเหนือหรือใต้ เพราะถ้าปลูกตั้งตรงหรือหันเฉียงไปทางทิศอื่นแดดจะเผากิ่งชำตายได้…เป็นเทคนิคง่ายๆ ทำเองได้ ใช้ทุนไม่สูง จะเอาทำค้าขาย ลุงเฉลิม ไม่หวงวิชา. ( ลุงเฉลิมได้กล่าวไว้)
ปักชำควบแน่นพันธุ์ไม้ที่มีกิ่งที่ใหญ่
ในส่วนนี้ขอเสริมอีกหน่อย ถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ หรือพันธุ์ไม้ที่มีกิ่งที่ใหญ่ ก็ให้ใช้วัสดุในการปักชำใหญ่ขึ้นตามและอาจจะนำไม้ค้ำ ไว้ด้วยก็ดีเพื่อเสริมความคงทนไม่เอนเอียงง่ายไงก็ลองปรับ และ ประยุกช์ใช้กันนะครับ เพราะโดยส่วนตัวผมคิดว่า การนำความรู้ต่างๆมาประยุกช์ใช้ให้เข้ากับ
สิ่งที่เราอยากจะทำ มันจะนำพาความรู้มาต่อยอดให้เราได้เรื่อยๆ .. ” เกษตรกรไทย ก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก ” ครับผม
ขอบคุณลุงเฉลิม พีรี เจ้าของข้อมูล
จาก ศูนย์เรียนรู้โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
บ้านวัดใหม่ ๗๕ หมู่ ๓ ต.บึงสามัคคี อ.บึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร 089 – 5670591
วิธีการปักชำแบบควบแน่น
หรือลมพัดต้นแม่พันธุ์เสียหาย สามารถใช้วิธีนี้อนุรักษ์พันธุ์พืชได้ การขยายพันธุ์พืชผักพื้นบ้านแบบควบแน่นอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นวิธีการที่สามารถลดเวลา ต้นทุนและการดูแลรักษา สามารถกำหนดปริมาณของผลผลิตให้ตรงกับความต้องการของตลาดและการบริโภคได้อย่างแม่นยำ
การขยายพันธุ์มะนาว แบบควบแน่น
องค์ประกอบในการควบแน่นมะนาว มีดังนี้
- ยอดมะนาว ความแก่อ่อน ๔๐ – ๖๐%
- น้ำสะอาด
- แก้วพลาสติค ขนาดบรรจุ ๑๐ ออนซ์ (หรือภาชนะที่ขนาดใหญ่กว่า ดูตามขนาดของยอดหรือกิ่งมะนาว)
- ถุงพลาสติคใสขนาด ๖ x ๑๑ นิ้ว (หรือขนาดใหญ่กว่า )
- ยางวงเส้นเล็ก หรือเชือก
วิธีทำ
- เก็บดินจากบริเวณที่มีอินทรีวัตถุน้อย ทำดินให้ร่วนซุย
- พรมน้ำคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วปั้นดู พอติดมือ (กำพอเป็นก้อน)
- นำดินใส่ให้เต็มแก้วพลาสติคหรือภาชนะกระถางที่จะใช้ โดยแบ่งใส่ ๓ ครั้ง แต่ละครั้งกดดินให้แน่น ระดับ ๘๐%
- ใช้ไม้แหลมหรือกรรไกรเสียบตรงกลางภาชนะที่ใส่ดินให้ลึกไม่เกิน ๓ ใน ๔ ส่วนของแก้ว
- ใช้กรรไกรคม ตัดยอดมะนาวตามที่ต้องการ ตัดให้ยาวประมาณ ๑๒ – ๑๘ ซม. ข้อสำคัญ อย่าให้แผลที่ตัดเปลือฉีก จะออกรากไม่ดี
- ใช้กรรไกรตัดหนามออกให้หมด ป้องกันหนามแทงถุง ถ้าอากาศเข้าจะออกรากยาก
- นำยอดมะนาวเสียบลงในรูที่เสียบไว้ ให้สุด
- กดดินรอบกิ่งมะนาวให้แน่น อย่าให้หลวม จะออกรากยาก
- นำถุงพลาสติคครอบลงแล้วรัดด้วยยางวงจำนวน ๒ เส้น แล้วดึงก้นถุงให้ยางไปรัดอยู่ที่ขอบปากแก้ว
- นำไปเก็บไว้ในที่ร่มรำไร หลังจากนั้น ๑๕ – ๒๐ วัน ให้ตรวจดูราก พอพบรากให้ปล่อยจนรากมีสีน้ำตาลค่อยกลับถุง
การกลับถุง มีวิธีดังต่อไปนี้
๑.ให้นำถุงออกจากแก้ว ช่วงประมาณ ๑๘.๐๐ น. เพื่อป้องกันความร้อน
๒.นำถุงออกแล้ว นำแก้วมะนาวที่ออกรากแล้ว ใส่กลับลงไปในถุง (เปิดปากถุงไว้ ไม่ต้องใช้ยางวงรัด)
๓.ทิ้งไว้ในร่มรำไร ประมาณ ๕ – ๗ วัน ค่อยนำแก้วมะนาวออกจากถุง เพื่อให้มะนาวปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อม
๔.หลังจากนั้นนำแก้วมะนาวที่ออกจากถุง พักตัวไว้ในร่ม ๗ – ๑๐ วัน ค่อยนำไปเพาะในกระถาง หรือนำไปปลูกได้เลย
โดย ลุงเฉลิม บอกว่า ลงทุนแค่แก้วพลาสติกใสเพื่อจะได้มองเห็นรากที่งอก, ยางเส้นวงเล็ก, ถุงพลาสติกขนาด 6×10 หรือ 6×11 นิ้วและดินทั่วๆ ไป แต่ถ้าเป็นดินขุยไผ่ยิ่งดี (ห้ามใส่ปุ๋ยเพราะทำให้ดินร้อน) เอาดินมาพรมน้ำทดลองกำ ถ้าดินจับตัวเป็นก้อนมีความร่วนซุยใส่ลงในแก้วพลาสติกกดให้แน่นจนดินเต็มเสมอปากแก้ว…จากนั้นเอายอดกิ่งไม้ที่เลือกไว้ ความอ่อนแก่ 40-60 เปอร์เซ็นต์ตัดกิ่งให้แผลเป็นรูปปากฉลาม ใช้กรรไกรเจาะดินลงไป 3 ใน 4 ส่วนของดิน นำกิ่งชำมาเสียบและกดลงไปให้แน่นแล้วเอาถุงพลาสติกสวมครอบกับแก้วพลาสติก แล้วใช้หนังยางวง 2 เส้น รัดปิดปากถุงกับแก้ว ป้องกันไม่ให้อากาศภายนอกเข้านำไปวางในที่ร่มอากาศถ่ายเท ทิ้งไว้ 15 วัน แล้วรากจะงอกมาให้เห็นเมื่อรากเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาล จัดการเปิดถุงตัดก้นถ้วยให้เกิดช่องอากาศ นำไปจุ่มน้ำเล็กน้อยดึงแก้วออก แล้วเอากิ่งปักชำใส่ถุงใบเดิม นำไปวางพัก 5-7 วันจากนั้นถึงนำไปปลูกลงดิน โดยให้กิ่งชำเอนเฉียงไปทางทิศเหนือหรือใต้ เพราะถ้าปลูกตั้งตรงหรือหันเฉียงไปทางทิศอื่นแดดจะเผากิ่งชำตายได้…เป็นเทคนิคง่ายๆ ทำเองได้ ใช้ทุนไม่สูง จะเอาทำค้าขาย ลุงเฉลิม ไม่หวงวิชา. ( ลุงเฉลิมได้กล่าวไว้)
ปักชำควบแน่นพันธุ์ไม้ที่มีกิ่งที่ใหญ่
ในส่วนนี้ขอเสริมอีกหน่อย ถ้าเป็นต้นไม้ใหญ่ หรือพันธุ์ไม้ที่มีกิ่งที่ใหญ่ ก็ให้ใช้วัสดุในการปักชำใหญ่ขึ้นตามและอาจจะนำไม้ค้ำ ไว้ด้วยก็ดีเพื่อเสริมความคงทนไม่เอนเอียงง่ายไงก็ลองปรับ และ ประยุกช์ใช้กันนะครับ เพราะโดยส่วนตัวผมคิดว่า การนำความรู้ต่างๆมาประยุกช์ใช้ให้เข้ากับ
สิ่งที่เราอยากจะทำ มันจะนำพาความรู้มาต่อยอดให้เราได้เรื่อยๆ .. ” เกษตรกรไทย ก็เก่งไม่แพ้ชาติใดในโลก ” ครับผม
ขอบคุณลุงเฉลิม พีรี เจ้าของข้อมูล
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)